โรคมะเร็ง เป็นโรคที่เกิดจากเซลล์หรือเนื้อเยื่อในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง หรือแบ่งตัวแบบกระจายอย่างรวดเร็ว โดยอาจลุกลามไปยังอวัยวะต่าง ๆ ที่สำคัญภายในร่างกายได้ โรคมะเร็งเป็นโรคที่ไม่ติดต่อจากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่ง แต่โรคมะเร็งบางชนิดอาจมีการถ่ายทอดทางพันธุกรรม หากมีประวัติบุคคลในครอบครัวเคยเป็นโรคมะเร็ง สมาชิกในครอบครัวอาจมีโอกาสเป็นโรคนี้สูงกว่าคนทั่วไป
โรคมะเร็งปากมดลูก
อาการ
- ระยะแรกเริ่มไม่แสดงอาการให้ปรากฏ
- มีเลือดออกทางช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์
- ประจำเดือนมามากหรือมาบ่อยผิดปกติ มีตกขาว กลิ่น และสีผิดปกติ
- ถ้าลุกลามมากขึ้น จะปวดท้องน้อยหรือปัสสาวะบ่อย
- ถ้าเป็นมาก กระเพาะปัสสาวะจะทะลุได้
ปัจจัยเสี่ยง
- มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
- มีความสัมพันธ์กับชายหนุ่มหลายคน
- ติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) หรือเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) มาก่อน
- ปากมดลูกผิดปกติ
การป้องกันและการดูแลเบื้องต้น
- มีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุ 20 ปีไปแล้ว
- หลีกเลี่ยงการมีความสัมพันธ์กับชายหนุ่มหลายคน
- รักษาความสะอาดจุดซ่อนเร้นให้สะอาด
- เมื่อตกขาวมากกว่าปกติ หรือมีเลือดออกทางช่องคลอด ซึ่งไม่ใช่ประจำเดือน ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
- หญิงสาวที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ควรตรวจภายในเพื่อหาเชื้อมะเร็งปากมดลูกอย่างน้อยปีละครั้ง สำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
โรคมะเร็งเต้านม
อาการ
- คลำเจอก้อนเนื้อขนาดเล็กที่เต้านม แสดงถึงอาการเริ่มแรกของมะเร็งเต้านม แต่จะไม่มีอาการเจ็บปวด ตรวจพบในระยะนี้มีโอกาสรักษาหายขาดได้
- เริ่มมีอาการเจ็บที่เต้านม เพราะก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้น รูปร่างเต้านมเปลี่ยนแปลง โดยเต้านมจะโตขึ้น ผิวหนังเกิดรอยบุ๋ม และเริ่มมีสะเก็ด
- เชื้อมะเร็งกระจายไปตามกระแสเลือด และไปยังอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกาย
ปัจจัยเสี่ยง
หญิงสาวที่เริ่มมีประจำเดือนมาเร็วตั้งแต่อายุยังน้อย หรือหมดประจำเดือนตอนอายุมาก รวมถึงผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดต่อเนื่องเป็นเวลานาน มีโอกาสเสี่ยงเช่นกัน ส่วนสาเหตุอื่น ๆ ที่มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมสูง ได้แก่ ความอ้วน ความเครียด ขาดการออกกำลังกาย ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่จัด เป็นต้น
การป้องกันและการดูแลเบื้องต้น
- ถั่วเหลือง มีโปรตีนสูง สามารถป้องกันการก่อนตัวของมะเร็งเต้านม
- ผักและผลไม้สด อุดมไปด้วยอนุมูลอิสระและวิตามินซี ควรกินให้ได้วันละ 5 ส่วน จะช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ทอดมัน ไก่ทอด และปาท่องโก๋ เพราะมีส่วนทำให้ฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ และยังเกิดโรคอ้วนอีกด้วย
- เลือกเสื้อชั้นในที่มีขนาดเหมาะสม ไม่หลวมหรือคับเกินไป และไม่สวมเสื้อชั้นในขณะนอนหลับ เพื่อให้ทรวงอกได้พักผ่อนบ้าง
- หมั่นนวดหน้าอกบ่อย ๆ จะช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ลดการอุดตันของเลือดและต่อมน้ำเหลืองในทรวงอก อีกทั้งการนวดหน้าอกทุกวัน หากมีสิ่งผิดปกติก็จะสามารถค้นพบและรักษาได้ทันท่วงที
- ตรวจเต้านมด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอ สามารถตรวจได้ทุกวัน ช่วงที่เหมาะสมที่สุด คือ ช่วง 7 วันหลังมีประจำเดือน เพราะเต้านมจะไม่ตึงจนเกินไป และง่ายต่อการตรวจ
โรคมะเร็งปอด
อาการ
มะเร็งปอด เกิดขึ้นบริเวณหลอดลมของปอด เป็นมะเร็งที่มีความรุนแรง ผู้ป่วยจะไม่รู้ตัวว่าป่วย เพราะโรคนี้ไม่แสดงอาการใด ๆ ให้สงสัยแม้แต่นิดเดียว เมื่อเชื้อเริ่มลุกลาม จะมีอาการไอแห้ง ๆ เรื้อรัง หายใจไม่เต็มที่ เนื่องจากอากาศเดินทางเข้าออกไม่สะดวก ผู้ป่วยจะรู้สึกหายใจเหนื่อยหอบ น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว มีไข้ต่ำแบบไม่ทราบสาเหตุ ถ้ามะเร็งลุกลามเข้าสู่กระแสเลือด จะมีอาการไอเป็นเลือด
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงหลักของโรคมะเร็งปอด คือ บุหรี่ ไม่ใช่แค่ผู้ที่สูบบุหรี่เท่านั้นที่มีโอกาสเสี่ยง ผู้ที่ต้องสูดดมควันบุหรี่ของผู้อื่นก็มีโอกาสเสี่ยงเช่นกัน นอกจากนี้ มลภาวะที่ซ่อนตัวอยู่ในอากาศ เช่น ควันพิษจากรถยนต์และโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงสารเรดอน ที่กระจายอยู่ในเหมืองแร่ และสารแอสเบสตอล ที่กระจายอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรมอุปกรณ์เครื่องยนต์ ก่อสร้าง และสิ่งทอ เป็นปัจจัยที่ทำให้เป็นโรคมะเร็งปอด
การป้องกันและการดูแลเบื้องต้น
- เลิกสูบบุหรี่
- ดื่มน้ำบริสุทธิ์มาก ๆ จะช่วยขับนิโคตินออกมา ทำให้ความอยากบุหรี่หายไปได้ และการดื่มชาหญ้าดอกขาว จะทำให้การสูบบุหรี่ไม่อร่อยเหมือนเดิม
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายวันละ 30-60 นาที เพียง 4-5 วัน จะช่วยขจัดอาการลงแดงจากการเลิกบุหรี่ให้หายไปได้
- หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีมลภาวะเป็นพิษ
- กินผักผลไม้ทุกวัน อาหารที่ให้วิตามินสูง จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปอด
- งดรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
- งดดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งปอดเช่นกัน
โรคมะเร็งตับ
อาการ
มะเร็งตับ แรกเริ่มจะไม่ปรากฏอาการใด ๆ ทำให้ผู้ป่วยไม่รู้ว่าตนเป็น จนเมื่อมีความรู้สึกแน่นท้อง ท้องผูก อ่อนเพลีย น้ำหนักลดลง มีอาการปวดหรือเสียดบริเวณชายโครงด้านขวา คลำเจอก้อนเนื้อ เริ่มตัวเหลือง ท้องโต และขาบวม เป็นต้น
ปัจจัยเสี่ยง
- ผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบบี มีอัตราความเสี่ยงเป็นมะเร็งตับสูง
- ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ มีความเสียงเป็นมะเร็งตับเช่นกัน
- สารอะฟลาท็อกซิน ที่ปนอยู่ในถั่วลิสง แป้ง พริกแห้ง กระเทียม เต้าเจี้ยว เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งตับ
- อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ทำให้เกิดโรคพยาธิใบไม้ตับ และนำไปสู่มะเร็งตับในที่สุด
การป้องกันดูแลเบื้องต้น
- ฉีดวัคซีนห้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบีตั้งแต่ยังเด็ก
- เลิกดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ
- เลิกรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ หรืออาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า ปลาแจ่ว เพราะเป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งตับเช่นเดียวกัน
- ไม่รับประทานอาหารค้างคืน เพราะอาจมีเชื้อราแอบแฝง
- หนุ่มสาวที่เป็นสิว อย่าทานยารักษาสิวมากเกินไป เพราะจะทำให้ค่าเอนไซม์ในร่างกายสูง และเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ
- น้ำผักผลไม้ ให้วิตามินซีสูง ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ดี
GHC สุขภาพดี คุณสร้างได้ . . .
MedShroom ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน จากเห็ดทางการแพทย์ โดดเด่นด้วยคุณค่าแห่งโภชนเภสัชสมุนไพรที่มีฤทธิ์ทางยา ภายใต้งานวิจัยสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ